Tuesday 19 February 2013

งามศิลป์ ชีวิตงาม


ไม่มีอะไรหนักไปกว่า การแบกความคิดที่ยังไม่เกิดขึ้น
"วินทร์ เลียววาริณ"

ความรู้สึกมันสลับไปมา ตลอดสัปดาห์ที่รอให้ถึงวันสัมภาษณ์
ระหว่าง..ตื่นเต้นมากพอ ๆ กับการมีเดทแรก
กับ..ตื่นเต้นนิดหน่อย มันก็เหมือนตอนประชุมกับลูกค้าแหละ
เดี๋๋ยวมันก็ลื่นไหลไปเอง
คิดว่าจะมีเวลาเตรียมตัวล่วงหน้าตั้ง 1 สัปดาห์
เอาเข้าจริง สมองก็รุงรังด้วยสารพัดเรื่อง
มาซ้อม ๆ เอาก็ตอนยืนล้างจานก่อนไปให้สัมภาษณ์
แมวสงสัยนิดหน่อยว่า ฉันพล่ามอะไร
ดูท่ามันอยากตอบคำถามฉันด้วยซ้ำ
เหมือนทุกครั้งเวลาพูดกับมั
แค่ครั้งนี้เราไม่ได้สบตากั
มันก็เลยลังเลที่จะตอบ

บ้าไปแล้ว ที่คิดว่าตัวเองจะต้องพูดอะไรออกทีวี
ฉันอยู่ในร่างผู้หญิงที่พูดน้อย พูดไม่เก่ง พูดไม่เป็นมาทั้งชีวิต
อิจฉาคนพูดเก่งนะ พวกนั้น กินอะไรเป็นอาหารหนอ

แล้วมันก็ผ่านไป แบบลื่นไหลไปเองนั่นแหละ
ฉันไม่ได้พูดอะไรคมคาย อย่างที่หวัง
ไม่สนด้วยซ้ำ ว่าเขาจะตัดต่อออกมาแบบไหน
หน้าตา น้ำเสียงจะเป็นยังไง
แค่มันผ่านไป จบไป 1 ภาระกิจ มันดีมากพอแล้ว
ฉันจะได้หย่อนใจเสียที


ฉันชอบแผ่นหลังของฉัน ตอนกำลังถูกสัมภาษณ์
นี่ฉันกำลังมองตัวเอง จากสายตาของคนในอดีต
อิจฉาผู้หญิงคนนี้หน่อย ๆ ชื่นชมเธอนิด ๆ
และอาจเผลออุทานเบา ๆ ว่า เธอเก๋นะ

ใครจะนึกว่า วันหนึ่ง เธอกำลังจะถูกเรียกว่า "ครู"
ใครจะนึกว่า วันหนึ่งจะมีคนมาสัมภาษณ์ในสิ่งที่เธอทำเล่น ๆ

จะอิจฉาเธอไปใย
แค่ลงมือทำมันจริง ๆ
ทุกคนที่ลงมือทำมันจริง ๆ จัง ๆ ก็ย่อมได้มาทั้งนั้น
ต่อให้สิ่งนั้น เป็นสิ่งเล่น ๆ ก็ตามทีเถอะ

ฉันทำงานประจำ
แล้วก็เอาเวลาว่างมาปักผ้าตลอดทั้งปี
นี่คงเป็นโบนัสกระมัง


ตอนที่ชูภาพ Frida ผลงานชิ้นมาสเตอร์พีซของฉัน
แล้วถามพิธีกรว่า รู้มั๊ยว่าคนนี้เป็นใคร
น้องเขาตอบอย่างมั่นอกมั่นใจว่า ก็พี่ไง
แวบแรกดีใจ อีกแล้วหรือ ที่มีคนคิดว่า ฉันหน้าเหมือน Frida
แวบต่อมา ฉันมั่นใจได้ไงว่า ฉันปักเก่งจนใคร ๆ ก็ดูออกว่าเป็น Frida
ฉันคาดหวังได้ไงว่าทุกคนจะรู้จักนาง

น้องเขาขอให้ฉันเล่าเรื่อง Frida นิดหน่อย ในฐานะที่เป็นแรงบันดาลใจ
เขาไม่รู้จัก Frida จริง ๆ นั่นแหล่ะ

เขาว่า ไม่ค่อยเห็นใครปักภาพ portrait


ดีที่ทุกอย่าง เรียบ ๆ ง่าย ๆ
ไม่มี set ไฟ ไม่มีช่างแต่งหน้า
มีแค่ตากล้อง กับคนตั้งคำถาม
ทำให้ฉันยังรู้สึกเป็นตัวเอ
คำถามหลัก ๆ
ทำไมถึงมาสนใจปักผ้า
ปักผ้าให้อะไร
คาดหวังอะไรในอนาคต

ถ้าฉันเป็นเพียงผู้หญิงปักผ้า
คงไม่น่าสนใจเท่า
ฉันเป็นผู้หญิงทำงานโฆษณา ที่หันมาปักผ้า
ใช่แล้ว มันขัดแย้ง
เหมือนการยืนอยู่ระหว่าง
ความเป็นดิจิตอล อัตโนมัติ กับความเป็นแมนนวล
อยู่กับการคิดล่วงหน้า อยู่กับปัจจุบัน
อยู่ระหว่างความเชื่องช้า กับความเร็ว
อยู่ระหว่างมายา กับความจริง
ในที่สุดฉันก็คิดคีย์เวิร์ดได้
ฉันปักผ้า เพื่อล้างพิษในตัว




แผนการณ์ในอนาคต
ฉันบอกน้องเขาไปแล้ว
ฉันจะปักภาพ portrait ผู้หญิง 10 คน
แล้วจะแสดงงาน
กับทำหนังสือเล่าเรื่องด้วยภาพปัก

ขอบคุณที่เขาแนะนำเพิ่มเติม
ให้ใส่ไปด้วยว่าในแต่ละภาพ ใช้ stitch อะไรบ้าง
เป็นกึ่ง ๆ how to ผสม เรื่องเล่า


ขอบคุณที่เขาเห็นคุณค่าของงานปัก

ขอบคุณน้องน็อธ ที่สนใจมาสัมภาษณ์
ขอบคุณจอยรักคลับที่เอื้อเฟื้อสถานที่
ขอบคุณน้องโอ๋ ที่คอยผลักดัน
ขอบคุณรายการ งามศิลป์ ชีวิตงาม ทางช่อง 9
ขอบคุณครูตุ๊ก ที่ถ่ายทอดวิชาปักผ้า
 
ขอบคุณจังหวะชีวิตดี ๆ :))
อ้อ ขอบคุณรูปถ่ายโดยน้องโอ๋


 

No comments:

Post a Comment